0


เรื่องของความไม่เข้าใจกัน


๐"รวันดา"ประเทศเล็ก ๆ ในทวีปแอฟริกา มีประชากรประมาณ 8 ล้านคนเศษ  เคยเป็นอาณานิคมของ เบลเยียมมาก่อน ภาษาที่ใช้คือ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และภาษากินยาร์วันดา
เมืองหลวงชื่อ "คิกาลี " ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตรแบบดั้งเดิม มีชนพื้นเมืองที่อยู่ร่วมกัน 2 เผ่า คือ ตุดซี่ และ ฮูตู มีการปกครองแบบ สาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข  และนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ 
 เผ่าฮูตู และตุดซี่ ต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นบริหารประเทศ(เหมือนเหลือง-แดงบ้านเราจังเลย) แล้วแต่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง
เมษายน 2537 เป็นช่วงที่รัฐบาลชาวฮูตูบริหารประเทศ  มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นที่รวันดา  นับเป็นเรื่องที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ของชาติเดียวกันอย่างโหดเหี้ยมที่สุดครั้งหนึ่ง จนฮอลลีวูดเอามาทำเป็นภาพยนต์ ชื่อเรื่องคือ HOTEL RAWANDA สร้างจากเรื่องจริง จากปากคำของผู้รอดชีวิตในครั้งนั้น

รวันดา เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีการคอรัปชั่นเหมือนประเทศไทยเรา ประชาชนยากจน  อัตราการศึกษาของคนในชาติต่ำ การแบ่งปันทรัพยากรไม่เป็นธรรม สังคมขาดความยุติธรรม ความขัดแย้งจึงมีขึ้นเป็นระยะ
พอมีความขัดแย้งกันก็มักใช้ความรุนแรงตอบโต้กันไปมา
 รวันดามีคน 2 เผ่าอยู่ร่วมกัน บ้างก็มี เจ้านายเป็น ตุดซี่ ลูกน้องเป็น ฮูตู หรือ บ้างก็มี เจ้านายเป็นฮูตู และลูกน้องเป็นตุดซี่ หรือเป็นเพื่อนบ้านกัน เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน เป็นเพื่อนร่วมงานกัน แม้กระทั่งเป็นสามีภรรยากัน มีลูกกัน กลายเป็นญาติกัน เป็นคนรักกันแต่ตอนหลังต้องมาขัดแย้งกัน
ไม่ต่างกับบ้านเราตอนนี้นะครับ 

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนั้น เกิดขึ้นในช่วง  6 เมษายน -กลางกรกฎาคม 2537 (100 วัน) เมื่อเผ่าฮูตูขึ้นเป็นรัฐบาล มีการปล่อยให้ ทหารบ้านชาวฮูตูสะสมอาวุธ และปล่อยให้วิทยุ ซึ่งเป็นสื่อสำคัญของรัฐที่เป็นชาวฮูตู โหมกระพือความขัดแย้ง
มีการรังแกชาวตุดซี่จากความได้เปรียบที่ฝ่ายตนเป็นรัฐบาล ชาวตุดซี่นำโดย นาย พอล คามากา  ซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีของ รวันดา  ได้ตั้งกลุ่มชาวตุดซี่ขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล "เรียกว่ากฎบตุดซี่" (ไม่ใช่กบฎตุ๊ดตู่นะครับ) 
มีการใช้สื่อเพื่อรวบรวมชาวตุดซี่ให้ลุกขึ้นต่อต้าน รัฐบาลชาวฮูตูเห็นว่าชักจะคุมชาวตุดซี่ มีการใช้มาตรการรุนแรง ให้ทหารรัฐ และ ทหารบ้านชาวฮูตู คัดแยกชาวฮูตู ออกจากชาวตุดซี่ 
มีการประกาศว่าชาวตุดซี่เป็นกบฎแบบเหมารวม และเริ่มเกิดการฆ่าชาวตุดซี่เกิดขึ้น โดยทหารบ้านชาวฮูตู
ชาวตุดซี่ก็เริ่มมีกองกำลัง มีการใช้กำลังลุกฮือขึ้นต่อสู้ จนถึงขั้นฆ่านายกรัฐมนตรีชาวฮูตูตาย

มีการฆ่ากันตายของคนทั้งสองฝ่ายทั่วรวันดา จากที่เคยรักใคร่เป็นเจ้านายลูกน้องกัน เป็นเพื่อนรักกัน จากที่เป็นเพื่อนบ้านกัน ที่เป็นญาติพี่น้องกัน ฆ่ากันตายมั่วไปหมด เกิดเหตุ จลาจล ปล้นสดมภ์ ข่มขืน ในช่วงเวลา 100 วันตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมในปี พ.ศ. 2537  ชนพื้นเมืองชาวตุดซี (Tutsi) และชนพื้นเมืองชาวฮูตู (Hutu) ถูกสังหารไปปประมาณ 800,000-1,071,000 คน สังคมของรวันดาล่มสลายหมด  ค่าเงินฟรังค์ของรวันดาตกต่ำอย่างหนัก

เหตุผลใด ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่โหดเหี้ยมอย่างนั้นขึ้นได้  ไม่มีสิ่งใด นอกจาก "ความเกลียดชัง" และ "ความมัวเมาอำนาจ"
ในช่วงที่ชาวรวันดารอความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ  แต่ความช่วยเหลือต่างๆชักช้า ไม่ทันการ อืดอาด มีแต่ช่วยกันระดมคนของชาติตนออกจากรวันดา ปล่อยให้ชาวรวันดาฆ่าฟันกันเอง เลือดนองแผ่นดิน   ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น คือนาย บิล คลินตัน กล่าวถึงการเพิกเฉยของสหรัฐฯ ว่า "เป็นสิ่งที่น่าสลดที่สุดภายใต้การบริหารของผม"

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้จบลงในที่สุดเมื่อกลุ่มกบฎชาวเผ่าตุดซีชื่อว่าแนวร่วมผู้รักชาติชาวรวันดา ภายใต้การนำของผู้ก่อตั้ง พอล คากาเม ได้ทำการล้มล้างรัฐบาลชาวฮูตูและเข้ายึดอำนาจ หลังจากนั้นในเวลาต่อมาก็มีผู้อพยพ และทหารบ้านฮูตูผู้พ่ายแพ้เป็นแสนๆ คนก็ได้หลบหนีเข้าไปในประเทศไซเรีย ซึ่งก็คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปัจจุบัน 
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเกลียดชังและความรุนแรงระหว่างสองชนเผ่านี้ก็ลุกลามไปยังประเทศในภูมิภาค แถบนั้นด้วย เป็นเหตุให้เกิดสงครามคองโกถึงสองครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องกันตั้งแต่ พ.ศ. 2539 มาจนถึง พ.ศ. 2546 

แสดงความคิดเห็น

 
Top